หน้าหลัก
Home
ข้อมูลทั่วไป
Information
บุคลากร
Personnel
แผนพัฒนา
Plan
งานการคลัง
Finance
รายงาน
Report
ศูนย์ข้อมูล
Data Center
 
  องค์การบริหารส่วนตำบลไผ่ขวาง อำเภอบ้านหมอ จังหวัดสระบุรี : www.paikwang.go.th
 
 



สถานที่ท่องเที่ยว

ประวัติวัดมะขามเรียง

วัดมะขามเรียง ตั้งอยู่ ณ เลขที่ 66 หมู่ 2 บ้านบ่อกระโดน ต.ไผ่ขวาง อ.บ้านหม้อ จ.สระบุรี แรกเริ่มเดิมทีจะเป็นสำนักสงฆ์อยู่นานเท่าใดไม่ปรากฏ จนกระทั่งล่วงมาถึง พ.ศ. 2470 สำนักสงฆ์แห่งนี้ก็มีพระภิกษุอยู่มากพอสมควร และได้   พระอธิการปลั่ง คชบุตร เป็นกำลังสำคัญ ร่วมกับฆราวาสอันได้แก่ กำนันอาจ อาจหาญ และนายก ทายิกา ชาวบ้านย่านไผ่ขวาง ร่วมกันพัฒนาสำนักสงฆ์แห่งนี้ให้มั่นคงแข็งแรง โดยกำนันอาจ อาจหาญ ได้เสียสละบริจาคที่ดินเป็นสำคัญ

ครั้นถึงวันที่ 30 กันยายน 2472 วัดมะขามเรียง ก็ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมากว้าง 80 เมตร ยาว 120 เมตร มีเจ้าอาวาสองค์แรกของวัดคือ พระอธิการปลั่ง คชบุตร โดยได้เปิดสอนพระปริยัติธรรฒ เมื่อ พ.ศ. 2478 เพราะได้กำลังสำคัญเข้ามาช่วยเหลือพระศาสนาในวัดอย่างเข็มแข็ง คือพระตาบ อตฺตกาโม

พ.ศ. 2488 พระอธิการปลั่ง คชบุตร ก็ลาสิกขาสู่เพศคฤหัสถ์ ทางคณะสงฆ์เห็นว่า พระตาบ อตฺตกาโม เป็นผู้มีความมุ่งมั่น และเข็มแข็งในการปฏิบัติภารกิจพระศาสนาเป็นอย่างดี จึงได้มอบหมายให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดมะขามเรียง ตั้งแต่ พ.ศ. 2489

หลังจากหลวงพ่อตาบได้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสแล้ว ศาลาการเปรียญ และกุฎิสงฆ์ ก็ได้รับการพัฒนาจนเจริญรุ่งเรืองเป็นลำดับมา

โรงเรียนประถมศึกษาของรัฐบาลซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณวัดมะขามเรียง ก็นับว่าเป็นผลงานอันเกิดจากการเห็นการไกลของหลวงพ่อตาบ ซึ่งท่านได้มุ่งมั่นเพียรพยายามในการให้การอุปถัมภ์อยู่มิได้ขาด

 

ประวัติหลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง (พระครูเวชคามคณารักษ์)

กำเนิด

พระครูเวชคามคณารักษ์ (ตาบ อตฺตกาโม) เกิดวันอาทิตย์ที่ 12 พฤศจิกายน 2454 ณ บ้านกระโดน ต.ไผ่ขวาง อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายโป๋และนางฟัก คชรินทร์ ท่านเป็นบุตรชายคนเดียวของครอบครัว

การศึกษา

เมื่อหลวงพ่อเจริญวัยได้พอสมควร จนมีอายุได้ 9 ปี (ใน พ.ศ.2462) บิดาจึงได้พาไปเข้าโรงเรียนชั้นประถมศึกษาที่โรงเรียนวัดศักดิ์ อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา และเป็นเด็กวัดอยู่กับพระที่วัดศักดิ์ จนถึงอายุ     12 ปี จบชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ก็กลับมาช่วยบิดามารดาทำงาน ในระหว่างช่วงนี้เองที่หลวงพ่อได้รับความรู้อักขระวิธีด้านเลขยันต์ และเวทย์มนต์พุทธาอาคมจาก คุณตาแจ้ง ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านนี้เป็นเยี่ยม ทำให้มีความปรีชาสามารถในด้านพุทธาคมมาแต่เยาววัย

อุปสมบท

เมื่อหลวงพ่อตาบอายุครบ 21 ปี บิดามารดาจึงได้พาเข้ารับการอุปสมบท เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2476 ณ พัทธสีมาวัดมะขามเรียง โดยมี พระครูศรีคณาภิบาล (โฉม) วัดดอนพุด เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการแซ วัดบ้านร่อม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และ พระอธิการปลั่ง วัดมะขามเรียง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาในเพศบรรพชิตว่า อตฺตกาโม หลังจากอุปสมบทแล้วก็จำพรรษา ณ วัดมะขามเรียงกับพระอนุสาวณาจารย์ คือพระอธิการปลั่ง หลังจากอุปสมบทแล้ว หลวงพ่อตั้งอธิษฐานว่าจะครองเพศพรหมจรรย์ตลอด หลวงพ่อพยายามศึกษาค้นคว้าด้านปริยัติธรรมจนสามารถสอบได้นักธรรมตรีในปี พ.ศ. 2478 และนักธรรมโทในปี พ.ศ. 2479 นักธรรมเอกในปี พ.ศ. 2480 เรียกได้ว่าท่านศึกษาได้แตกฉานอย่างรวดเร็วสามารถสอบได้ติดต่อกันทุกปีมิมีช่องว่างเว้น

สมณศักดิ์

พ.ศ. 2509 ได้รับแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์
พ.ศ.2510 หลวงพ่อตาบ สร้างตะกรุด แจกจ่ายแก่คณะศิษย์ พ.ศ.2515 ได้สร้างเหรียญรุ่นแรกจำนวน 6,000 เหรียญ เป็นรูปหลวงพ่อนั่งเต็มองค์ เนื้ออัลปาก้า
พ.ศ. 2511 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็น พระครูสัญญาบัตร ชั้นตรี ที่ พระครูอัตถจริยนุกูล
พ.ศ. 2513 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็น พระครูสัญญาบัตร ชั้นโท ในราชทินนามเดิม
พ.ศ. 2527 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็น พระครูสัญญาบัตร ชั้นเอก ในราชทินนามเดิม
พ.ศ. 2531 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็น พระครูเจ้าคณะอำเภอบ้านหม้อ ที่ พระครูเวชคามคณารักษ์

ผลงาน

          นอกจากผลงานในด้านการเทศน์ อบรมชาวบ้าน เป็นพระอุปัชฌาย์อุปสมบทให้แก่กุลบุตรโดยทั่วไปแล้ว หลวงพ่อนับเป็นพระนักพัฒนา ทั้งพัฒนาจิตใจประชาชนด้วยการสร้างสำนึกฝึกอบรม ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน หลวงพ่อยังพัฒนาด้านถาวรวัตถุการก่อสร้างภายในวัดมะขามเรียงนับตั้งแต่โบสถ์ ศาลาการเปรียญ กุฏิสงฆ์       หอระฆัง นอกจากผลงานดังกล่าวหลวงพ่อยังสร้างสาธารณะประโยชน์ต่างๆ อาทิเช่น

1.ร่วมพัฒนาชุมชนประจำ อ.บ้านหมอ จัดอบรมเยาชนในท้องถิ่น และตำบลใกล้เคียงให้เป็นพลเมืองดี             

2.จัดตั้งหน่วย อ.ป.ต. วัดมะขามเรียง โดยได้รับเป็นประธานหน่วย

            3.ได้รับแต่งตั้งเป็นประธานหน่วยพิเศษ รับสมทบทุนร่วมถวายความจงรักภักดีของพสกนิกร ณ ที่ตั้งหน่วย อ.ป.ต. จนได้รับตราตั้งเป็นกรณีพิเศษ

         4.ได้ร่วมหน่วยพัฒนาชุมชน ทำการบรรพชาสมเณรภาคฤดูร้อนจำนวน ๔๕ รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในมหามงคลสมัยพระชนมายุครบ ๖๐ พรรษา

         5.ได้จัดให้มีการอบรมกิริยามารยาทให้เยาวชน นักเรียน ๑๕ วันต่อ ๑ ครั้งในระหว่างเปิดภาคเรียน

         6.จัดตั้งกองทุนศึกษาสงเคราะห์ประเภทชั้นประถมศึกษาฯ ให้แก่เยาวชนในวัยเรียน

         7.จัดตั้งมูลนิธิ "อัตถจริยานุกูล" เพื่อการศึกษาของโรงเรียนวัดมะขามเรียง

         8.ให้การสนับสนุนกิจการของสถานีอนามัยประจำตำบล และตู้ยาประจำหน่วยให้มียาบริการมิได้ขาด

พุทธาคมหลวงพ่อตาบ
           หลวงพ่อตาบ มีความรู้พื้นฐานด้านพุทธาคมมาตั้งแต่เยาว์วัยโดยได้ศึกษากับคุณตา ผู้มีความเป็นเลิศทางด้านเวทย์มนต์คาถา ครั้นมาอุปสมบทหลวงพ่อก็เริ่มศึกษาทางธรรมตลอดจนการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน นับได้ว่ารากฐานทางด้านพลังจิต อำนาจบารมีทางใจของหลวงพ่อแข็งแกร่งขึ้น หลังจากท่านได้ฝึกฝนปฏิบัติการทางจิตใจโดยวิปัสสนากรรมฐานอย่างชำนิชำนาญจนจัดว่าเป็นนายของใจได้แล้ว การปฏิบัติทางพุทธาคมและคาถาอาคมของหลวงพ่อตาบจึงมิต้องสงสัยเลยว่าจะทำได้ดีเยี่ยมขนาดไหน

วันที่ 31 ธันวาคม 2532 หลวงพ่อตาบ ได้ละสังขารลง สิริอายุ 78 ปี แต่ร่างกายสังขารของท่าน ไม่เน่าเปื่อย บรรดาลูกศิษย์จึงนำสังขารร่างของท่านใส่ไว้ในโลงแก้ว ตั้งไว้ให้บรรดาพุทธศาสนิกชนได้กราบไหว้

 

- จำนวนผู้เข้าชม จำนวน 1087587 คน ตั้งแต่วันที่ 06 เมษายน 2563 - ปัจจุบัน